ตอนที่ 5 : คู่มือและสถาบันกวดวิชา : ใช้ประโยชน์จากToolsเหล่านี้ให้เป็น
44. เราจะเตรียมเอนท์ทั้งที หลาย ๆ คนก็คงจะใช้เครื่องมือ(Tools)เหล่านี้บ้างใช่ไหมล่ะ ถ้าหากเรารู้จักใช้ รู้จักเลือกให้เหมาะกับตัวเรา มันก็จะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นนะ
45. หนังสือคู่มือหรือข้อสอบเก่า(ตามที่ได้แนะนำไว้) จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องซื้อเยอะแยะหรอกนะ พวกข้อสอบเก่าแบบนี้ ขอจากรุ่นพี่ก็ได้ หรือถ้าไปเรียนคอร์สเอนท์ที่ไหนก็อาจจะได้หนังสือประกอบการสอนมา ซึ่งก็คงจะไม่ต้องไปซื้อคู่มือเอนท์ของวิชานั้นแล้วล่ะ ขืนซื้อเยอะเกินไป อ่านไม่หมด เสียดายเงินแย่เลย
46. คุณภาพของหนังสือก็สำคัญนะ แต่ละสำนักพิมพ์จะมีรูปแบบในการพิมพ์ที่แตกต่างกันออกไป เลือกคุณภาพของหนังสือที่มันดีหน่อยล่ะกัน เคยเจอหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง พิมพ์ได้แย่มาก แค่เอายางลบลบหน่อยเดียว ตัวหนังสือที่พิมพ์ก็หายไปหมดเลยล่ะ แสดงว่าเป็นที่หมึกพิมพ์ของสำนักพิมพ์นี้แหละ
47. ส่วนร้านที่จะซื้อ ถ้าไปร้านที่ใหญ่ ๆ และมีหนังสือให้เลือกเยอะมาก ก็จะเป็นประโยชน์กับเรานะ อย่างที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ นี้กำลังดีเลย ที่แผนกหนังสือคู่มือเอนท์จะมีหนังสือประเภทนี้ให้เลือกเยอะมากเลยล่ะ ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงด้วย แต่ไม่ใช่ว่าร้านอื่นจะไม่ดีนะ ก็มีอีกหลายร้านแหละที่มีหนังสือประเภทนี้ให้เลือกเยอะ ไปร้านที่คุณสะดวกจะซื้อก็แล้วกันนะ
48. หนังสือแต่ละเล่มก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็อาจจะบอกว่าเล่มนี้ดี อ่านแล้วรู้เรื่อง แต่บางคนก็อาจจะบอกว่าไม่ดี อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่มันก็หนังสือเล่มเดียวกันนั้นแหละ นั้นเป็นเพราะแต่ละคนจะมีพื้นฐานการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณควรจะเลือกเล่มที่อธิบายได้เหมาะกับตัวคุณด้วยนะ อย่าเลือกซื้อหนังสือตามคนอื่นโดยที่ไม่ดูก่อนว่าเหมาะกับตัวเองรึเปล่า ตอนที่จะซื้อหนังสือก็แนะนำให้ยืนอ่านดูสักหน่อยว่า
- หนังสือเล่มนี้อธิบายแล้วเข้าใจไหม
- มีโจทย์เยอะพอตามที่คุณต้องการรึเปล่า
49. หนังสือที่รวมข้อสอบเก่าในแต่ละวิชา ควรเลือกเฉลยที่มันเชื่อถือได้หน่อยนะ อาจจะขอคำแนะนำจากเพื่อนหรือรุ่นพี่ก็ได้
50. เคยเจอหนังสือรวมข้อสอบเก่าฟิสิกส์ของ NEO เล่มสีแดง เฉลยดีมากเลย
- ข้อไหนที่คิดได้หลายแบบ เขาจะแสดงวิธีคิดให้ทุกแบบเลย เฉลยส่วนใหญ่จะเฉลยวิธีคิดให้แบบเดียว พอเราคิดอีกวิธีหนึ่งแต่ได้คำตอบตรงกัน ก็ไม่มั่นใจว่าถูกเพราะฟลุครึเปล่า
- นอกจากนี้ยังแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับข้อนั้น ๆ ให้ด้วย ถ้าเราอ่านเฉลยไม่เข้าใจหรือต้องการเนื้อหาเพิ่มเติม ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดจากหนังสือเล่มอื่น
- เฉลยก็ดีมาก ๆ เชื่อถือได้
แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ยังมีขายอยู่รึเปล่า เพราะเก่ามาก (ที่บ้านผมมีอยู่แค่เล่มเดียว) ถ้าสำนักพิมพ์ไหนหรือผู้เขียนท่านใดเขียนหนังสือเฉลยข้อสอบเก่าออกมาในลักษณะนี้ ก็นับว่าเป็นเล่มที่น่าซื้อเหมือนกัน
51. แน่นอนล่ะ หลาย ๆ คนก็คงจะลงเรียนพิเศษกันเยอะ กะไว้ว่าน่าจะช่วยทำให้คะแนนเอนท์ดีขึ้นใช่ไหมล่ะ อันที่จริงจะฟันธงไปว่า การเรียนพิเศษเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดีก็อาจจะทำได้ไม่ชัดเจนนัก มันขึ้นอยู่กับว่าตัวผู้เรียนจะใส่ใจคอร์สเรียนพิเศษที่ตัวเองได้ลงเรียนไปขนาดไหน และรู้จักแบบเวลาได้ดีแค่ไหน การเรียนพิเศษมันจะเป็นเรื่องดีถ้าหากว่าคุณลงเรียนในวิชาที่คุณอ่อนเพื่อดึงให้มันดีขึ้น หรือเรียนในวิชาที่แข็งอยู่แล้ว ให้มันแข็งขึ้นไปอีก กะฟันคะแนนวิชานี้อย่างถล่มถลายว่างั้นเถอะ
52. ถ้าหากว่าคุณลงเรียนพิเศษหลาย ๆ วิชา ทั้งคอร์ส ม.6 คอร์สปรับพื้นฐาน คอร์สเอนท์ คอร์สตะลุยโจทย์ เรียนตั้งแต่ 7 โมงเช้ายัน 1 ทุ่ม อันนี้ก็ไม่ไหวนะ คิดเหรอว่าลงเรียนแบบนี้แล้วจะได้ผลดี ในทางกลับกัน คุณจะเหนื่อยมาก ๆ สมองก็ตื้อ ไม่สามารถรับความรู้อะไรใหม่ ๆ ได้เลย เปลื้องเงินเปล่า ๆ เคยถามคนที่ลงเรียนพิเศษอย่างถล่มถลายแบบนี้เหมือนกัน โดยพื้นฐานแล้วเขามักจะคิดว่าการเรียนพิเศษเยอะ ๆ จะทำให้เราได้เปรียบคนอื่น อยากเก่งอยากเหนือกว่าคนอื่นนั้นเอง มันก็จริงอยู่หรอก แต่ถ้าลงเยอะเกินไปก็จะไม่ได้อะไรกลับมาเหมือนกัน ต้องประมาณความสามารถของตนเองให้ดี ๆ ด้วยว่าจะรับได้ไหวแค่ไหน
53. คุณเคยดูหรือเคยเล่นกีตาร์ไหม ถ้าหากคุณปรับสายกีตาร์ให้ตึงเกินไป เสียงก็จะสูง ๆ เผลอ ๆ สายอาจจะขาดได้ แต่ถ้าหากคุณปรับสายกีตาร์ให้หย่อนเกินไป เสียงมันก็จะเพี้ยน สายห้อย ๆ ดีดยากจะตาย การเรียนพิเศษก็ไม่ต่างอะไรจากสายกีตาร์หรอก ปรับสายกีตาร์ให้พอดีดีกว่านะ ดีดออกมาจะได้เพราะ ๆ
54. สูตรลัดทั้งหลายที่ได้มาจากที่เรียนพิเศษนะ ควรจะดูที่มาของสูตร หรือทำความเข้าใจเงื่อนไขของสูตรลัดนั้นด้วยนะ ไม่ใช่ว่าจะมัวแต่ตื่นเต้นกับสูตรลัด แต่พอเอาเข้าจริง ๆ กลับใช้สูตรลัดไม่เป็นเลย สูตรลัดบางสูตรมันก็มีข้อจำกัดที่จะใช้ได้กับโจทย์บางลักษณะเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่าสูตรลัดบางสูตรก็ดีจริง ๆ มันช่วยประหยัดเวลาตอนทำข้อสอบเอนท์ได้เยอะเหมือนกัน เอาเวลาตรงนี้ไปทำในข้อที่ยาก ๆ จะดีกว่าเนอะ ดังนั้น อย่าลืมทำความเข้าใจกับสูตรลัดที่ได้มาจากติวเตอร์ให้ดี ๆ ล่ะกัน อย่าคิดนะว่าจำสูตรลัดได้แล้วจะทำข้อสอบได้เสมอไป
55. เคยถามคน ๆ หนึ่งว่าตั้งแต่เรียนพิเศษมารู้สึกดีขึ้นบ้างไหม เขาก็บอกว่าดีขึ้นนิดหน่อย พอถามไปถามมา ก็เลยรู้ว่าทำไมถึงดีขึ้นนิดหน่อย (ทั้ง ๆ ที่น่าจะดีขึ้นมากกว่านี้ เพราะเสียเงินไปแล้วนี้น่า) เขาเรียนแค่ในห้องเรียนพิเศษแล้วไม่เคยกลับมาทบทวนในสิ่งที่เรียนพิเศษไป ทั้ง ๆ ที่ที่เรียนพิเศษแต่ละที่เขาก็จะให้โจทย์หรือให้การบ้านมาทำบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยทำ แบบนี้ไม่น่าแปลกใจหรอกว่าทำไมถึงดีขึ้นได้นิดเดียว ดังนั้น โจทย์ที่คุณได้มากจากที่เรียนพิเศษ หรือการบ้านต่าง ๆ ที่ติวเตอร์บางที่ให้มาทำแล้วไปเฉลยในห้องก็ควรจะทำสักบ้างนะ ถ้าหากติวเตอร์เขาเฉลยข้อนั้นไปแล้ว จะเสียดายโจทย์มาก ๆ อย่าเพิ่งบอกตัวเองว่าทำข้อนี้ไม่เป็น ลองทำดูก่อน ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ก็ค่อยไปดูเฉลยทีหลัง บางทีถ้าหากคุณคิดผิดหรือคิดไม่ได้จะได้รู้ตัวเองว่า ทำไมถึงคิดข้อนี้ไม่ได้ คุณจะได้รู้จักระวังในการทำโจทย์แนวนี้ในข้อต่อ ๆ ไปยังไงล่ะ และที่สำคัญ ถ้าหากคุณลงเรียนพิเศษวิชาใดไปแล้ว ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าโดดเลยนะ ไม่อย่างนั้นมันจะเรียนไม่รู้เรื่องในคราวต่อไป ถ้าโดดบ่อย ๆ ก็จะไม่ได้อะไรกลับมาเหมือนกัน
56. คอร์สเอนท์ ถ้าหากคุณได้ลงเรียนกับสถาบันกวดวิชาที่มีคุณภาพและคุณเองก็ตั้งใจเรียน ขอบอกว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากคอร์สนี้มหาศาลเลยนะ เพราะคอร์สเอนท์จะสรุปความคิดรวบยอดของเนื้อหาทั้งหมดที่ได้เรียนมาให้คุณ นอกจากนี้ติวเตอร์ที่เก่ง ๆ เขาก็จะรู้แนวข้อสอบเป็นอย่างดี และสามารถจับจุดแนวข้อสอบเอนท์ให้กับคุณได้ มันจะช่วยคุณประหยัดเวลาที่คุณจะต้องไปจับแนวข้อสอบด้วยตัวคุณเอง
57. เหนือสิ่งอื่นใด การเรียนในโรงเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญนะ อย่าลืมนึกถึงGPAที่คุณต้องเก็บสะสมไว้เป็นทุนด้วยล่ะ
ตอนที่ 6 : เทคนิคการปรับสภาพจิตใจ
58. ช่วงการเตรียมตัวสอบเอนท์จะเจอสารพัดปัญหาจิตใจ ทั้งความกดดัน ความเครียด ไม่มีเวลา ท้อ เหนื่อย และอีกหลาย ๆ อย่าง ให้บอกกับตัวเองว่า สู้ ๆ สู้ตาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ การสอบเอนท์ไม่ได้แข่งกับใครเขาหรอก แข่งกับตัวเองนี้แหละ มีกำลังใจดี ๆ ก็แล้วกัน ตราบใดที่ผลเอนท์ยังไม่ออก เราก็มีลุ้นเสมอ อย่าเพิ่งท้อ
59. อย่ากลัวว่าจะเอนท์ไม่ติดนะ เพียงแค่คุณกล้าเผชิญหน้ากับการสอบ คุณก็เป็นผู้กล้าในใจของผมแล้ว ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุดก็แล้วกัน
60. สำหรับบางคนที่กลัว...กลัวเหลือเกินว่าจะเอนท์ไม่ติด คุณรู้ไหมว่า “ถ้าสองพี่น้องตระกูลไรท์เชื่อว่านกเป็นสิ่งเดียวที่บินได้ เราก็คงไม่ได้เห็นเครื่องบินบินทั่วท้องฟ้าแบบนี้หรอก” และเช่นกัน “ถ้าคุณเชื่อว่าคุณจะเอนท์ไม่ติด คุณก็จะไม่ได้เห็นชื่อตัวเองอยู่บนบอร์ดประกาศผลเอนท์เหมือนกัน” แค่คิดว่าทำไม่ได้ มันก็ล้มเหลวไปครึ่งหนึ่งแล้วล่ะ
61. จริงอยู่การเอนท์ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ถ้าไม่อย่างนั้นคงจะเอนท์ติดกันทุกคนไปแล้ว คงไม่มีใครเอนท์ไม่ติดหรอก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มีใครเอนท์ติดเลยสักคนเช่นเดียวกัน มันขึ้นอยู่กับความพยายามของคุณต่างหากล่ะ
62. อย่าให้โชคชะตามากำหนดชีวิตของคุณนะ แต่คุณก็จะต้องกำหนดชีวิตคุณด้วยตัวคุณเอง นั้นหมายความว่าความพยายาม ความขยัน และความตั้งใจของคุณจะเป็นตัวกำหนดผลการสอบของคุณ (ไม่ใช่ดวงหรือโชคแต่ประการใด) เชื่อผมสิ พระเจ้าไม่กลั่นแกล้งคนที่ขยันหรอก
63. ถ้าหากว่าคุณท้อ เหนื่อย ผิดหวังกับคะแนน เทคนิคการปรับสภาพจิตใจที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ก็คือ การมองโลกในแง่ดีนั้นเอง หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะรู้สึกแย่ยังไงก็ตาม ให้ลองคิดอะไร ๆ ในแง่บวกกับตัวเองดูบ้าง มันจะช่วยให้คุณดีขึ้นแน่ ๆ ลองดูตัวอย่างนะ
- ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยกับการอ่านหนังสือ คุณลองคิดแบบนี้ดูสิ “เอาเหอะ ถึงเราจะเหนื่อยก็จริง แต่ก็เหนื่อยเฉพาะตอนนี้เท่านั้นนะ พอเราเอนท์ติดได้คณะที่ต้องการ เราก็จะสบายแล้ว...เย้”
ลักษณะทำนองเดียวกันกับทฤษฎีน้ำครึ่งแก้วนั้นแหละครับ แก้วใบหนึ่งมีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว ถ้ามองว่า “เสียดาย น้ำหกไปตั้งครึ่งแก้วแหนะ” มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา แต่หากมองว่า “อ่า ก็ยังดีนะ น้ำยังหกไม่หมด ยังเหลืออีกตั้งครึ่งแก้ว” นอกจากจะทำให้เราสบายใจแล้ว ยังเป็นกำลังใจที่จะทำให้เราสู้ต่อไปอีกด้วย เอาเป็นว่าอย่าลืมทฤษฎีน้ำครึ่งแก้วล่ะนะคับ
64. ไม่ว่าจะสอบอะไรก็คงต้องมีเครียด มีกังวลกันบ้างเป็นธรรมดา แต่อย่าให้มากเกินไปนะ จำไว้อย่างหนึ่งว่า ไม่มีใครทำอะไรได้ดีในสภาวะกดดันหรอก ความพอดีเป็นสัจธรรมที่ใช้ได้ตลอดการจริง ๆ ถ้ารู้สึกว่าตัวเองชักจะตึงตัวเกินไปแล้ว ก็ลองผ่อนคลายสักบ้างนะ เพื่อที่ศักยภาพในตัวเราจะได้ถูกดึงออกมาใช้อย่างเต็มที่ ถอยหลังสักก้าวหนึ่งมาตั้งหลัก เพื่อที่จะได้ก้าวต่อไปอีกหลาย ๆ ก้าวยังไงล่ะ
65. ทำวันนี้ให้ดีเพื่อวันหน้า เพราะวันหน้าได้ดีจากวันนี้ ถ้าคุณขยันในวันนี้ คุณก็จะเอนท์ติดในวันหน้านะแหละ
ตอนที่ 7 : การสอบตรงและโควตา
66. สอบตรงนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าเกิดติดสอบตรงขึ้นมาเราก็อุ่นใจว่ามีที่เรียนแน่นอน ไม่ต้องลุ้น เอนท์อีก แต่ไปช่วยลุ้นให้กับเพื่อน ๆ ที่เขาเอนท์แทน
67. สอบตรงนะ สมัครไปเหอะ เป็นการเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ถ้าติดก็ดี ไม่ติดก็ไม่เป็นไร
68. สอบตรงที่ไหนจะต้องสอบวัดความรู้ด้วย ก็อ่านหนังสือไปเถอะ ไหน ๆ ก็สมัครแล้ว ถ้าไม่ติดสอบตรงนี้ก็ไม่เป็นไร ถือซะว่าได้อ่านทบทวนเอนท์ไปเลย มันต้องทบทวนอยู่ตลอดนะ ไม่งั้นลืมแน่ เคยเป็นใช่ไหม อ่านหลังแล้วลืมหน้าอ่ะ
69. โปรดดูเงื่อนไขของการสอบตรงให้ดี ๆ นะ เอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสอบตรงที่เราสมัคร ควรจะดูให้ละเอียดถี่ถ้วน ถึงจะมีมากมายเป็นเล่มก็ควรจะอ่านให้ครบทุกตัวอักษร เพราะถือเป็นผลประโยชน์ของตัวเราเอง ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมา นั้นก็หมายถึงอนาคตของเราเช่นกัน
ตอนที่ 8 : เมื่อวันสอบมาถึง
70. ช่วงก่อนถึงวันสอบอย่างน้อยสัก 1-2 สัปดาห์ก็น่าจะทำข้อสอบเก่าได้แล้วนะ เพราะเราอ่านรายละเอียดมาทั้งเทอมแล้ว ต้องลองลับฝีมือตัวเองซะบ้าง จะได้รู้ว่าเราตกหล่นตรงไหนบ้าง ต้องปรับความเร็วอีกเท่าไร (อย่าลืมว่าการสอบมีเวลาจำกัด)
71. ก่อนวันสอบสัก 1-2 วัน เราต้องเริ่มผ่อนคลายแล้วนะ อย่าคิดมาก ทำใจดี ๆ สู้ให้ถึงที่สุด นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง/วัน กินข้าวให้ครบทุกมื้อ (ก่อนหน้านั้นใกล้สอบ จะนอนวันละ 4-6 ชั่วโมงก็ไม่ว่ากัน) มาอ่านเพิ่มเติมเอาอีก 1 วันทีเหลือมันช่วยอะไรไม่ได้นักหรอก ยกเว้นแต่จะทำโจทย์ซ้ำตรงส่วนที่เราแม่นอยู่แล้ว เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและเรียกกำลังใจว่าเราก็ทำได้เยอะเหมือนกันนะ
72. เอาเป็นว่าก่อนสอบอย่างน้อย 2 วัน ต้องพักผ่อนมาก ๆ ใส่ใจสุขภาพตัวเองให้มากหน่อย ยังคงจะได้นะ สมองพร้อม ใจพร้อม กายต้องพร้อมด้วย เกิดเป็นลมในห้องสอบขึ้นมาล่ะแย่เลย ทำเป็นเล่นไป เรื่องจริงนะ เห็นมากับตา เจอมากับตัว
73. คุณควรจะไปสำรวจสถานที่สอบก่อน วางแผนการเดินทางให้ดี ๆ จะได้ไม่เจอรถติด ในวันสอบไปถึงเวลาสอบก่อนอย่างน้อย 30 นาที เพื่อที่จะได้มีเวลาเตรียมตัว เข้าห้องน้ำ ทำใจให้สบาย ไม่รีบเร่ง อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์การสอบให้พร้อมด้วยล่ะ
74. เมื่อถึงวันสอบจริง ๆ แล้วรู้สึกมั่นใจ พร้อมเต็มร้อย ก็ดีแล้วนะ แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พร้อม หรือพร้อมนิดหน่อยก็ต้องสู้นะ พร้อมไม่พร้อมก็ต้องพร้อม เอาเป็นว่า ทำให้สุดฝีมือล่ะกัน
75. ตอนสอบอย่าลน มั่นใจในตัวเอง ฝนรหัสวิชา ชุดสอบ รหัสประจำตัวสอบให้ดี ๆ ถ้าพลาดตัวเลขไปแค่ตัวเดียว คะแนนเราจะพลาดไปร้อยคะแนนเลยนะ
กรณีตัวอย่าง(เรื่องจริง) สอบวิชาภาษาไทย รหัสวิชา01 เป็นวิชาแรกของวัน สอบวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา03 เป็นวิชาที่2ของวัน แต่ดันกรอกเป็นรหัส02 พอเจอวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา02 แต่สอบเป็นวิชาที่3 ก็เลยเพิ่งรู้ว่าเมื่อวิชาที่แล้วฝนรหัสวิชาภาษาอังกฤษผิด เกิดอาการมึน ๆ งง ๆ เข้าใจว่ารหัสวิชาเรียงตามลำดับการสอบ แต่ไม่ได้อ่านรหัสวิชาที่หัวข้อสอบให้รอบคอบ กรรมการคุมสอบบางครั้งเขาก็ดูให้ไม่ละเอียดหรอก เราต้องดูของตัวเองให้ดี ๆ
76. คุณควรใส่นาฬิกาไปด้วย ดูเวลาเป็นระยะ จะได้กะเวลาทำข้อสอบได้ถูก
77. ข้อไหนทำไม่ได้ก็ข้ามไปก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาทำใหม่ อันนี้คงจะรู้กันอยู่แล้ว ย้ำเตือนกันเฉย ๆ
78. ถ้าเราทำเสร็จแล้วยังพอมีเวลาเหลือ อย่างน้อย ๆ ควรจะตรวจทานกระดาษคำตอบว่าเราฝนตัวเลขถูกไหม ลืมฝนอะไรรึเปล่า ตรวจทานข้อสอบที่ทำไปแล้ว ใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุดนะ เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง
79. อย่าทุจริตเลย อย่าแม้แต่จะคิด มันไม่คุ้มกันหรอกกับผลที่จะได้ เตรียมตัวมาเป็นเทอม จะพลาดก็คราวนี้แหละ
80. ก้าวเข้าห้องสอบด้วยความมั่นใจ และทำมันให้ดีที่สุด เรารู้ว่าคุณทำได้ และทำได้ดีด้วย ขนาดเรายังเชื่อมั่นในตัวคุณเลย แล้วทำไมคุณจะไม่เชื่อมั่นใจตัวเองล่ะ
เธเนเธฒเธ 
