Science Math Enrichment Program,K.B.
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Science Math Enrichment Program,K.B.

Science Math Enrichment Program in K.B. school in YALA, Thailand
 
เธšเน‰เธฒเธ™เธšเน‰เธฒเธ™  PortalliPortalli  เธ„เน‰เธ™เธซเธฒเธ„เน‰เธ™เธซเธฒ  Latest imagesLatest images  เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)  เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)  

 

 เตรียมตัวเอนท์ให้ได้ประโยชน์มาที่สุด [coppy]

Go down 
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
Admin
Admin
Admin
Admin


เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 182
อายุ : 33
Registration date : 10/06/2007

เตรียมตัวเอนท์ให้ได้ประโยชน์มาที่สุด [coppy] Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: เตรียมตัวเอนท์ให้ได้ประโยชน์มาที่สุด [coppy]   เตรียมตัวเอนท์ให้ได้ประโยชน์มาที่สุด [coppy] EmptySun Jun 17, 2007 10:08 pm

ก็อปปี้มาจาดเพ่ ลีเวนนาใจดี


อืมม์ ขอออกตัวไว้ก่อนนะคะว่าบทความนี้เขียนขึ้นโดยอิงจากประสบการณ์
ส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้เขียนเพื่อโน้มน้าวให้ทำตามหรือจูงใจแต่อย่างใด เป็นการบอกเล่า
ให้น้องๆที่สนใจรับทราบข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับการเอนท์เท่านั้นค่ะ
ขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ


เรื่องการอ่านหนังสือตัวพี่เองเริ่มมาจริงจังตอนม.6 ค่ะ ( แต่ให้ดีน้องคนไหนฟิตๆขยันอย่างยิ่งเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ม.5 เทอม 2 พี่ว่ายิ่งดีค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ทำตั้งแต่ม.4 นะ รับรองว่าไม่ลืมเนื้อหาก็งงเป็นไก่ตาแตกชัวร์หากไปเรียนคอร์สเอนท์ตอนนี้ เพราะเนื้อหาอีกเยอะที่น้องไม่เคยผ่านมาก่อนแต่ต้องมาเรียนล่วงหน้า มันจะทำให้น้องรู้สึกแย่และท้อใจตัวเองโดยใช่เหตุ ยกเว้นแต่น้องที่คิดว่าตัวเองรับไหว เตรียมตัวตั้งแต่ม.4 เลยก็ได้ค่ะ เพื่อนของเพื่อนพี่มีบ้างที่เตรียมกันตั้งแต่ม.4 )
ช่วงชีวิตตอนม.4-5 พี่ไม่ซีเรียสกับการเรียนมากนะ แต่ก็ไม่ลืมตัวเองที่จะพยายามตั้งใจเรียนในห้องและหมั่นทบทวนบทเรียนในชั้นเรียนสม่ำเสมอเพื่อทำเกรดในชั้นเรียน อ้อ ลืมบอกไปว่าสมัยพี่เอนท์ใช้ระบบสอบรวม คิด GPA+PR รวม 10% ค่ะ ฉะนั้นเกรดในโรงเรียนก็สำคัญเลยต้องฟิตๆกันหน่อย ใช้หลักที่ว่าตั้งใจเรียนในห้องเรียนให้ดีที่สุด แล้วก็ไปกวดวิชาบ้างตามสมควร อย่างพี่ไปกวดหลักๆก็ เลข ฟิสิกส์ เคมี 3 วิชานี้พี่กวดตั้งแต่ ม.4 ยันคอร์สเอนท์ เพราะบอกตรงๆเลยว่าพี่อ่อนคำนวณมาก เรียนเองไม่ได้แน่นอน เลยต้องกวด เพราะบางทีพยายามเรียนในห้องแล้วถ้าไม่รู้เรื่อง การไปขวนขวายหาความรู้ข้างนอกก็เป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง

แต่พี่คิดว่าการกวดวิชาไม่ใช่สิ่งจำเป็นเสมอไป หรือเป็นแฟชั่นนิยมตามคนอื่นที่ว่า " เฮ้ย! แกไปเรียนที่ไหนอ้ะ ไปด้วยดิ " อะไรทำนองนี้ ไม่เอานะ ต้องถามใจตัวเองให้แน่ก่อนว่าเราเรียนเข้าใจไหม? รู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน? โอเค ถ้าเราเข้าใจ รู้เรื่อง ไม่ต้องไปกวดวิชาให้เสียทั้งเวลาและเงินทองอันมีค่าดอกน้องเอ๋ย เอาเวลาไปนอนหลับพักผ่อนและหมั่นทำโจทย์แบบฝึกหัดให้เยอะแทนก็มีประโยชน์นะ ( มากด้วยล่ะ ) เพราะการเรียนกวดวิชาให้เยอะจนตายไปข้าง แถมบางคนเรียนหลายสถาบันอีกต่างหาก เวลาเรียนทฤษฎีที่เขาสอนน้องอาจจะรู้สึกว่า อืมม์... รู้เรื่องดีนะ แต่น้องเคยกลับมาทบทวนหรือทำแบบฝึกหัดหรือเปล่า เพราะหากน้องสักๆแต่เรียนโดยไม่หมั่นทำโจทย์หรือข้อสอบให้รู้แนวและเพิ่มความเคยชินเลย เวลาสอบจริงมันจะคนละเรื่องกับตอนเรียนที่มีโจทย์ให้ทำพอรู้ลักษณะข้อสอบนิดๆหน่อยๆเลยนะ ( อันนี้กล้าพูดเพราะตัวเองเคยเป็นมาแล้ว บางคนอาจตื่นเต้นจัดจนลืมสูตรก็มี หรือ ตื่นทั้งข้อสอบและสถานที่อีก ซวยไปใหญ่ เสียสมาธิจนทำไม่ได้ดีเท่าที่ควรก็มีถมไปค่ะ )

หลักการอ่านของพี่ก็คือ 3 วิชานี้เน้นทำข้อสอบเก่า ( แต่ย้ำว่าอย่างน้อยต้องเรียนจบ ม.6เทอม 1 ไปแล้วหน่อยก็ดีนะ จะได้มีความรู้ทำข้อสอบได้บ้าง หรือใครคิดว่าจะลองทำตอนม.5 เทอม 2 เลยก็ได้ค่ะ ไม่ว่าใคร อันนี้แล้วแต่ความถนัดส่วนบุคคลนะ ) ทำข้อสอบเก่าย้อนไปสัก 10-15 ปีเลย แล้วจับเวลาทำเหมือนสอบจริงน่ะ เป็นการฝึกการลงสนามและไม่ให้ตื่นข้อสอบด้วย พอถึงเวลาเฉลย เราจะได้รู้ว่าข้อสอบขอ้นี้เราไม่ได้ตรงไหนก็ย้อนกลับไปเปิดดูเนื้อหาจากหนังสือเรียนอ่านซ้ำมันอีกที ทำวนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ที่ทำนี่ไม่ใช่ให้ทำไปเรื่อยๆโดยจำโจทย์และคำตอบเท่านั้นนะ ทำแล้วต้องเข้าใจด้วยว่าโจทย์แนวนี้ทำไมถึงทำแบบนี้ คือต้องเข้าใจถ่องแท้ เพราะหากเกิดน้องสักแต่ทำให้มันผ่าน แล้วประยุกต์พลิกแพลงโจทย์ไม่เป็นเพราะไม่เข้าใจจริง มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยใช่ไหมคะ


ส่วนวิชาไทย กับอังกฤษพี่มากวดเอาคอร์สเอนท์ตอนม.6 เลย บอกตามตรงนะพี่ว่าอย่างวิชาอังกฤษเนี่ย ทั้งพี่และเพื่อนๆรวมถึงหลายๆคนเคยพูดกันหรือเปล่าว่า แล้วแต่กรรมเก่า? เออ พี่ก็คิดนะว่ามันก็จริงน่ะ เรียนมาตั้งแต่เด็กประถมยันม.ปลาย 10 กว่าปีที่เรียนๆเนี่ย ทำไมมันรู้สึกเหมือนยิ่งเรียนยิ่งโง่หนา แกรมมาก็เรียนแล้วเรียนอีกทำไม่ได้สักที passage ในข้อสอบ ที่ให้มาก็ยาวหลายหน้าเอ4 จริงๆ เวลาก็จำกัดอีก จะทำได้ไหมนี่? และอื่นๆอีกมากมายกับวิชาคู่กัดกับเด็กไทยมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหา อันนี้พี่ก็แนะอะไรไม่ได้มาก ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆว่าเรียนได้มามากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อย มีเทคนิกของพี่เองมาแนะนำให้น้องๆค่ะ แต่จะได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหนอันนี้ขึ้นกับวิจารณญาณของแต่ละคนนะ


พี่เป็นคนหนึ่งล่ะที่ขี้เกียจสุดๆกับการท่องศัพท์มาก มันมีเยอะเป็นพันๆคำใน dic. ใครจะไปจำได้ ศัพท์ที่กวดวิชาที่ให้มาท่องพี่ก็แตะๆบ้างอ่านผ่านๆตาบ้าง รู้สึกว่า มันน่าเบื่อ มีแต่อะไรก็ไม่รู้ แต่ในเมื่อมันต้องใช้สอบ เราก็ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมท่องและดูมัน แต่พี่เปลี่ยนวิธีใหม่ นั่นคือ พี่จะซื้อข้อสอบเอนท์เก่าย้อนหลังไปสัก 10-15 ปี มานั่งทำจริงจังแบบจับเวลาเลย 2 ชม. 100 ข้อนี่แหล่ะ ระหว่างทำก็สังเกตไปด้วยว่าข้อสอบแต่ละปีมันมีอะไรที่พอจะจับหลักได้บ้าง อย่างพวกแกรมม่าเนี่ย มีให้จับทางพอได้ ส่วน passage มันเปลี่ยนไปทุกปีอยู่แล้ว แต่หลักๆก็คือ
1. อ่านเอาเนื้อเรื่อง – ถามว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร
2. อ่านแล้วใช้แกรมม่าประยุกต์มาทำข้อสอบ เช่น อาจเว้นว่างแล้วให้แปลงศัพท์หรือเลือกศัพท์มาตอบ แปลงศัพท์อาจยากหน่อยเพราะมันหมายถึงเราต้องรู้ว่าคำหนึ่งๆ noun,verb,adj.,adv. หน้าตามันเป็นไง
3. หรืออาจจะถามนอกเรื่องไปเลยก็มีนะ
แล้วศัพท์พี่ก็ท่องเอาจากในขอ้สอบนี่แหล่ะค่ะ ท่องของ 10-15 ปีย้อนหลังพี่ก็ว่าได้เยอะแล้วนะ หากจำได้หมดแล้วจึงมาท่องของที่กวดวิชาต่อพี่ก็ว่าโอแล้วล่ะ นอกนั้นได้แต่อาศัยบุญเก่าอย่างเดียว ไม่รู้จะช่วยยังไง

ส่วนภาษาไทยพี่ก็อาศัยเรียนในห้องเป็นหลัก ตอนม.4-5 ไม่ได้กวดเพราะไม่รู้จะไปกวดกับใคร เน้นอ่านพวกหลักภาษาให้เยอะๆ จำกฎการใช้ให้แม่นๆ แล้วก็เหมือนเดิม เก็งแนวข้อสอบจากข้อสอบเก่าเช่นกัน ทำย้อนหลังมันไปสัก 10-15 ปีเลย แต่ทำไปได้สักพักรู้สึกว่าจับจุดเองไม่ได้ สุดท้ายจึงไปลงคอร์ส intensive กับสถาบันกวดวิชา ซึ่งก็รู้สึกดีนะ มันได้อะไรที่ตัวเองหาไม่ได้เยอะขึ้น มุมมองในการทำข้อสอบมันก็ดีขึ้น

มาดูชีวะกันบ้าง อันนี้พี่แนะนำว่าเป็นวิชาที่ต้องกวดอย่างยิ่งยวดสำหรับคนที่ต้องการเอนท์สายที่ต้องใช้วิชานี้ เพราะอ่านเองมันไม่ได้อะไรมากจริงๆ เราไม่สามารถโยงความรู้บทต่างๆเข้ามา link กันได้ (ยกเว้นน้องที่ทำได้ อันนี้ก็ดีไปค่ะ ) หรืออ่านไม่ตรงจุด pointๆ เหมือนที่อาจารย์ท่านมีประสบการณ์การสอนและน่าจะเก็งให้เราได้ดีกว่า และสำคัญที่วิชานี้ต้องอ่านทบทวนสม่ำเสมอ ตัวพี่เองพี่อ่านทุกวันนะ ซื้อหนังสือกวดวิชาและหนังสือหลายๆสนพ.มานั่งอ่านให้เยอะๆ แล้วก็หมั่นทำข้อสอบเก่าเยอะอีกเช่นกัน


อันนี้เป็นทริคเพิ่มเติมเล็กน้อย สำหรับวิชาไทย สังคม อังกฤษ และชีวะ พี่จะซื้อข้อสอบเฉลยอย่างน้อย 2-3 สำนักพิมพ์มาเพื่อเปรียบเทียบเฉลยว่าเฉลยตรงกันหรือไม่ เพราะการเชื่อเฉลยของเจ้าเดียวมันเสี่ยงเกิน เราไม่แน่ใจว่าเขาเฉลยถูกจริงหรือไม่ก็ต้องดูเฉลยของส่วนรวมว่าส่วนใหญ่เขาเฉลยไปทางไหน ( อันนี้ใครไม่มีปัญหาเรื่องทุนทรัพย์มากนักแนะนำให้ทำนะ เห็นผลจริง แต่ใครไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรค่ะ ใช้วิธียืมเพื่อนที่ซื้อหนังสือต่างกันกับเรามาเทียบกันดูก็ได้ หรือถามผู้รู้หรือาจารย์หลายๆท่านเอาก็ได้นะ ประหยัดดีด้วย )

กลับเข้ามาช่วงม.4-5 ต่อ เรื่องการแบ่งเวลาเรียน อันนี้ก็แล้วแต่บุคคลอีกเช่นกันค่ะ บางคนรับการเรียนหนักๆไหวก็ดีแต่บางคนอาจไม่ไหวก็ต้องมาปรับเปลี่ยนจัดตารางเวลาให้ดีๆกันหน่อยละ พี่จะยกตัวอย่าง 3 แบบให้น้องดูนะคะ (ไม่จำเป็นต้องทำตามนะ แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ จากประสบการณ์ของตัวพี่และเพื่อนๆ ใครจะทดลองไปใช้ก็ไม่ว่ากันแต่เตือนแล้วนะว่าไม่ได้เขียนเพื่อบังคับหรือจูงใจให้น้องมุ่งแต่จะไปกวดวิชา พี่บอกแต่แรกแล้วว่ามันขึ้นกับแต่ละคนนะคะ )


แบบแรก
ม.4 เทอม 1 กวดวิชาของม.4 เทอม1
ปิดเทอมก่อนขึ้นม.4 เทอม2 กวดวิชาของ ม.4 เทอม 2
ม.4 เทอม 2 กวดวิชาของ ม.5 เทอม 1
ปิดเทอมก่อนขึ้นม.5 เทอม 1 กวดของม.5 เทอม 2
ม.5 เทอม 1 กวดของม.6 เทอม1
ปิดเทอมก่อนขึ้นเทอม2 กวดของม.6เทอม 2
ม.5เทอม 2 กวดคอร์สเอนท์
ม.6เทอม 1 ทำข้อสอบเก่าทุกวิชาและอ่านทบทวนก่อนสอบเอนท์
ปิดเทอมก่อนขึ้นเทอม 2 สอบเอนท์ครั้งที่ 2 ตอนเดือนตุลาคม
ม.6 เทอม 2 กวดคอร์สเอนท์หรือไม่กวดเลยเพื่ออ่านเองก็ได้
จบการศึกษา สอบเอนท์ครั้งที่ 1 ตอนเดือนมีนาคม

แบบสอง
ม.4 เทอม 1 กวดวิชาของม.4 เทอม1
ปิดเทอมก่อนขึ้นม.4 เทอม2 พักผ่อน
ม.4 เทอม 2 กวดวิชาของ ม.4 เทอม 2
ปิดเทอมก่อนขึ้นม.5 เทอม 1 พักผ่อน
ม.5 เทอม 1 กวดของม.5 เทอม1
ปิดเทอมก่อนขึ้นเทอม2 กวดของม.5เทอม 2
ม.5เทอม 2 กวดคอร์สเอนท์
ม.6เทอม 1 ทำข้อสอบเก่าทุกวิชาและอ่านทบทวนก่อนสอบเอนท์
ปิดเทอมก่อนขึ้นเทอม 2 สอบเอนท์ครั้งที่ 2 ตอนเดือนตุลาคม
ม.6 เทอม 2 กวดคอร์สเอนท์หรือไม่กวดเลยเพื่ออ่านเองก็ได้
จบการศึกษา สอบเอนท์ครั้งที่ 1 ตอนเดือนมีนาคม

แบบสาม
ม.4 เทอม 1 กวดวิชาของม.4 เทอม1
ปิดเทอมก่อนขึ้นม.4 เทอม2 พักผ่อน
ม.4 เทอม 2 กวดวิชาของ ม.4 เทอม 2
ปิดเทอมก่อนขึ้นม.5 เทอม 1 พักผ่อน
ม.5 เทอม 1 กวดของม.5 เทอม1
ปิดเทอมก่อนขึ้นเทอม2 พักผ่อน
ม.5เทอม 2 กวดม.5 เทอม2
ม.6เทอม 1 คอร์สเอนท์และอ่านทบทวนก่อนสอบจริง
ปิดเทอมก่อนขึ้นเทอม 2 สอบเอนท์ครั้งที่ 2 ตอนเดือนตุลาคม
ม.6 เทอม 2 กวดคอร์สเอนท์หรือไม่กวดเลยเพื่ออ่านเองก็ได้
จบการศึกษา สอบเอนท์ครั้งที่ 1 ตอนเดือนมีนาคม

หลักๆก็มีอยู่สามแบบนะคะ แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแบบไหน แบบแรกมันดูจะหนักหน่อยเพราะเรียนมันแทบจะทุกเวลา ไม่ค่อยได้พัก แต่พอช่วงม.6 เทอม 1 น้องจะสบายกว่าเพื่อนหน่อยเพราะถือว่าเรียนจบหมดแล้ว เหลือแค่อ่านทบทวนและฝึกทำข้อสอบเก่าก่อนสอบจริงเท่านั้นเอง แบบสามนี่พี่ว่าหนักสุดนะ เพราะทุกอย่างจะไปมะรุมมะตุ้มเอาตอนม.6 เทอม 1 ซึ่งหากใครไม่ตั้งใจจริงมีสิทธิ์อ่านไม่ทันอ่านไม่จบแล้วคะแนนร่วงได้


หลักๆพี่ก็แนะนำให้ได้เท่านี้น่ะจ้ะ แบบว่าแก่แล้ว ผ่านเอนท์มาก็นาน อาจหลงๆลืมๆจุดสำคัญๆอีกหลายๆอย่างไปบ้าง ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับน้องๆบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ปัจจุบันเป็น O-NET A-NET พี่ก็ไม่รู้ว่ามันเหมือนกับระบบเก่าหรือเปล่า เลยให้คำปรึกษาไม่ได้มาก ก็ขอให้ทุกคนโชคดีประสบความสำเร็จนะคะ

ปล. ไม่ได้ตั้งใจเขียนแล้วให้น้องๆเครียดหนักกว่าเก่านะคะ บอกแล้วว่านี่มันเป็นแค่ประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ คิดเสียว่าอ่านผ่านๆเหมือนอ่านนิตยสารอ่านเล่นก็ได้ ไม่ต้องซีเรียสกับมันขนาดนั้นนะคะ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://smep.do-goo.com
 
เตรียมตัวเอนท์ให้ได้ประโยชน์มาที่สุด [coppy]
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 1 เธˆเธฒเธ 1
 Similar topics
-
» ?????านหนัง??อป???????าง?
» เทค?ิค????????????อบ
» ?ยผลก?รจัด?ัน?ับ????ิท????ยท???อด??????????ุด??ลก??????
» ????อค????่งท???ีค?าท???ุด.. ?าจ??อง?????? *
» เทค?ิค?????านหนัง????????????อบ?????? ? 1 ??อน

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
Science Math Enrichment Program,K.B. :: Admission Talk :: ประสบการณ์แอดมิชชั่น-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: